เศรษฐกิจ » กรมบังคับคดี – บสย. ยกระดับความร่วมมือ รับ– ส่งข้อมูลบุคคลล้มละลาย อิเล็กทรอนิกส์

กรมบังคับคดี – บสย. ยกระดับความร่วมมือ รับ– ส่งข้อมูลบุคคลล้มละลาย อิเล็กทรอนิกส์

3 กันยายน 2020
667   0

Spread the love

นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี และ นายจตุฤทธิ์ จันทรกานต์ รองผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สายงานปฏิบัติการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมลงนามบันทึกความตกลงการรับ – ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกรมบังคับคดี กับ บสย. โดยมี  นายฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานสารสนเทศและดิจิทัล บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรมบังคับคดี และ บสย. เข้าร่วมในพิธีลงนาม  ณ ห้องประชุมคชสาร 2 ชั้น 3 อาคารกรมบังคับคดี เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563

นายจตุฤทธิ์ จันทรกานต์ รองผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สายงานปฏิบัติการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  กล่าวว่า การลงนามบันทึกความตกลงการรับ – ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างกรมบังคับคดี กับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในวันนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับการพัฒนาและต่อยอดวามร่วมมือ  ซึ่งเห็นความสำคัญของข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลล้มละลาย และการรับส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เกี่ยวกับบุคคลล้มละลาย ซึ่งเป็นข้อมูลสาธารณะที่สามารถเปิดเผยได้ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ กรมบังคับคดี ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลของบุคคลล้มละลายเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์กรมบังคับคดีได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งในปี 2561 กรมบังคับคดี ได้เปิดโอกาสให้ บสย.ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน นับเป็นโครงการความร่วมมือครั้งแรกร่วมกัน  

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการทำงานเชิงรุก ทันสมัยตอบโจทย์ในยุคดิจิทัล การสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน โดยคำนึกถึงความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ระหว่างกรมบังคับคดี และ บสย. ตอบโจทย์การทำงานที่สะดวกรวดเร็วของการรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ลดการใช้เอกสาร และยังเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้มีความรวดเร็วขึ้น เป็นการส่งเสริม สนับสนุนภารกิจของกรมบังคับคดี และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ตรงตามวัตถุประสงค์ 3 ข้อคือ 1.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมทรัพย์สินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน และส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม 2.เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบรรดาเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายและประชาชนทั่วไปจากการจำหน่าย จ่าย โอน ทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ 3.เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ลดการใช้เอกสาร อันเป็นการบูรณาการและสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน