สังคม » เชียงใหม่ปิดศูนย์บัญชาการคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจหาสภาพของปัญหาในพื้นที่เชิงลึกตามหมู่บ้าน

เชียงใหม่ปิดศูนย์บัญชาการคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจหาสภาพของปัญหาในพื้นที่เชิงลึกตามหมู่บ้าน

30 เมษายน 2020
441   0

Spread the love

 

วันนี้ (30 เม.ย. 63) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่าน VTC ร่วมกับ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพล.ต. จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานการประชุม

โดยจังหวัดเชียงใหม่ สรุปสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ในห้วงที่ผ่านมามีจุดความร้อน (Hotspot) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 29 เม.ย. 63 ทั้งหมด จำนวน 21,183 จุด มากกว่าปีที่ผ่านมาจำนวน 6,429 จุด เกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 8,891 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 11,251 จุด เขต สปก. 492 จุด ชุมชนและอื่นๆ 416 จุด ริมทางหลวง 19 จุด และพื้นที่เกษตร 114 จุด ซึ่งพบมากที่สุดอำเภอ 3 อันดับแรก คือ อ.เชียงดาว จำนวน 2,718 จุด อ.แม่แจ่ม จำนวน 2,410 จุด และอ.อมก๋อย จำนวน 2,379 จุด ในส่วนของผลการแจ้งความดำเนินคดี รวมทั้งหมด 1,380 คดี แบ่งเป็น 1.พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ / พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ 1,259 คดี 2. พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ 29 คดี 3. พ.ร.บ.จราจรฯ 92 ราย ซึ่งวานนี้ (29 เม.ย.63) ได้แจ้งความดำเนินคดีจำนวน 13 คดี 4 อำเภอ จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 4 ราย ในพื้นที่ อ.ฝาง 1 ราย (นายชาญชัย ศิริสุนทร) , อ.ฮอด 2 ราย (นายใส ใจประสงค์ และนายนันทนคร ปัญญาวงค์) และ อ.พร้าว 1 ราย (นายกั่ว เลาซ้ง)

อย่างไรก็ตามในห้วง 3 วันที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่มีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำไม่พบจุดความร้อน รวมถึงค่าคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ทางจังหวัดจะได้มีการปิดศูนย์บัญชาการฯ แล้ว แต่ยังคงมีการติดตามการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ จะมีการติดตามการบริหารจัดการเชื้อเพลิงตามแผนงาน

สำหรับแนวทางของจังหวัดเชียงใหม่จะเน้นให้ทุกอำเภอบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยวิธีการอื่นมากกว่าการเผา เช่น การทำปุ๋ยหมัก การนำเศษวัสดุทางการเกษตรส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมอัดใบไม้เป็นก้อน ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง โดยกำชับว่าจะให้ใช้วิธีการเผาเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งจากที่ก่อนหน้านี้ได้ในทุกอำเภอส่งแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ของตนเองมาให้จังหวัดพิจารณาวางแผน และหากกรณีที่ทางอำเภอใดที่มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยการเผา ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของทางจังหวัด 8 ข้ออย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจการพื้นที่โดยให้อ้างอิงจากข้อมูลการลงทะเบียนบัญชีรายชื่อผู้หาของป่าล่าสัตว์เมือปีที่แล้ว โดยให้สำรวจหาสภาพของปัญหาในพื้นที่เชิงลึก แต่ละหมู่บ้าน เพื่อนำมาถอดบทเรียน เตรียมแผนการดำเนินการในปีต่อไป และเนื่องจากในช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอให้ดึงศักยภาพของชุดลาดตระเวน เฝ้าระวังประจำหมู่บ้าน ประชาสัมพันธ์อบรมให้ความรู้ให้กับชาวบ้าน เกี่ยวกับแนวทางการดับไฟป่า หรือการทำแนวกันไฟ เพื่อสามารถให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

Diva4d Toto Online Diva4d sekawanbet Taruh4d Daftar dodoslot kerasbola kerasbola
Dodoslot Kerasbola
bewin999 toto macau tt4d scobet999 gwin4d bewin999 gwin4d tt4d gwin4d slot demo link bewin999 slot terbaru bewin999 slot terbaru bewin999