คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการแพทยศาสตรศึกษา ครั้งที่ 20 ภายใต้หัวข้อ “Educational Disruption in Medical Schools” ก้าวให้ทันกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกในยุค Digital Transformation พร้อมสร้างความท้าทายและพลิกโฉมหน้าระบบการศึกษาไทยและสถาบันผลิตแพทย์ระดับอาเซียน ในระหว่างวันที่ 11 – 13 ธันวาคม 2562 ณ อาคารศรีสวรินทิรา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ศิริราชได้รับเกียรติจากกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมวิชาการแพทยศาสตรศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 ภายใต้หัวข้อ “Educational Disruption in Medical Schools” ซึ่งเป็นการประชุมระดับนานาชาติที่เชิญวิทยากรชั้นนำเข้าร่วมงานมากที่สุด สอดคล้องกับสภาวการณ์ในยุค Disruption Technology ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการแพทยศาสตรศึกษา โดยมี อาจารย์แพทย์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม และได้เชิญ Prof.Dr.Olle Ten Cate จาก University Medical Center Utrecht ประเทศเนเธอร์แลนด์ Assoc. Prof. Fun-Gee Chen จาก National University of Singapore ประเทศสิงคโปร์ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน การพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษาแห่งอนาคต
หัวข้อที่น่าสนใจในการประชุมครั้งนี้ อาทิ Learning Technology in the 21st Century (เทคโนโลยีส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21) Care and Caring for Medical Students (แนวปฏิบัติที่เหมาะสมในการดูแลนักศึกษาแพทย์) Social Media as a Learning Tool (การใช้สื่อสังคมออนไลน์ส่งเสริมการเรียนรู้) Burnout in Medical Schools (ภาวะหมดไฟในการทำงานในโรงเรียนแพทย์) Medical School Network & Asean Medical School Alliance (International Southeast Asia) เป็นต้น
“ความท้าทายในระบบการศึกษาของไทยและสถาบันผลิตแพทย์ในปัจจุบันคือ ไทยต้องเร่งวางรากฐานระบบการศึกษาให้ทันต่อยุค Digital Transformation นั่นคือ กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการเรียนการสอนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับการใช้เทคโนโนยีแห่งยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Digital Technology ได้เข้ามามีบทบาทในระบบสุขภาพอย่างสูง ภายใน 10 ปีจากนี้ รูปแบบการรักษาพยาบาลจะเปลี่ยนไปอย่างมาก การรักษาพยาบาลสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้าน ผู้ป่วยทุกรายไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถดูแลคนไข้ได้ในทุกพื้นที่ แพทย์ผ่าตัดซึ่งอยู่อีกประเทศหนึ่งสามารถทำการผ่าตัดได้ด้วยเทคโนโลยีในอีกซีกโลกหนึ่งได้”
การจัดประชุมในครั้งนี้มีความท้าทายพอสมควร เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีประสบการณ์ในการพัฒนาบุคลากรทางแพทยศาสตรศึกษาได้แลกเปลี่ยนความเห็นและเสนอแนวทางที่เหมาะสมในการสร้างบุคลากรทางแพทยศาสตรศึกษา เพื่อตอบสนองความต้องการของหลักสูตรในอนาคตต่อไป