สังคม » ผู้ว่าฯเชียงใหม่ สกัดทุกเส้นทางรอบอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป้องกันผู้ที่ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่า

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ สกัดทุกเส้นทางรอบอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป้องกันผู้ที่ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่า

2 เมษายน 2020
517   0

Spread the love

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ สั่งตั้งด่านจุดตรวจสกัดทุกเส้นทาง บริเวณโดยรอบอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ป้องกันผู้ที่ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่า พร้อมให้ทุกอำเภอรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีและสั่งฟ้องโดยเร็ว เพื่อให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด

วันนี้ (2 เม.ย.63) ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมติดตามสถานการณ์ 5 อำเภอ ที่มีจุด Hotspot สูงที่สุดของวันนี้ หลังพบจุด Hotspot เพิ่มสูงขึ้นถึง 333 จุด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม พร้อมสั่งการตั้งจุดตรวจสกัดในการเข้าพื้นที่บริเวณโดยรอบอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อย่างเข้มข้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้บูรณาการร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด ในการดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยให้นายอำเภอ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ระดับอำเภอ แจ้งเจ้าของพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ รวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีทุกคดี และรายงานผลการแจ้งความดำเนินคดีให้ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ทราบทุกวัน เพื่อเป็นการเร่งรัดรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีและสั่งฟ้องโดยเร็ว อีกทั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดของจังหวัดเชียงใหม่

ในส่วนของการเฝ้าระวังในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ขณะนี้ทางจังหวัดฯ ได้ดึงเครือข่ายภาคประชาชนของชุมชนในพื้นที่บูรณาการร่วมกับภาครัฐ ในการตั้งจุดสกัด เดินลาดตระเวน และเฝ้าระวังป้องกัน ถึงแม้ว่าสถานการณ์ไฟไหม้ได้คลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีการวางกำลังเฝ้าระวังและลาดตระเวนประจำอยู่ในพื้นที่ป่าตลอดเวลา โดยเพิ่มกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และชุดปฏิบัติการในพื้นที่ ประกอบกับที่จังหวัดได้มีประกาศสั่งปิดป่าไปแล้ว แต่ยังคงมีไฟไหม้ในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้มีการตั้งด่านจุดตรวจสกัดทุกเส้นทาง และบริเวณโดยรอบอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางเข้า ถนนลาดยาง และถนนลำลอง เพื่อเข้มงวดตรวจสอบบุคคลที่จะเดินทางเข้าออกในพื้นที่ ซึ่งผู้ที่เข้าไปในพื้นที่ป่าได้ จะต้องเป็นผู้มีบัตรแสดงตนเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สำคัญต่อชาวจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นพื้นที่ติดกับเขตเมือง จึงทำให้ต้องมีมาตรการเข้มในการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดไฟไหม้ซ้ำในพื้นที่ และลดค่าฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอีกด้วย