เศรษฐกิจ » มูลค่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมทั่วโลกปี 63 มีแนวโน้มปรับตัวลง

มูลค่าการลงทุนซื้อขายโรงแรมทั่วโลกปี 63 มีแนวโน้มปรับตัวลง

26 กุมภาพันธ์ 2020
793   0

Spread the love

เจแอลแอลเผยปัจจัยสำคัญๆ ที่จะมีผลกระทบต่อตลาดการลงทุนโรงแรม

นักลงทุนทั่วโลกยังคงสนใจหาโอกาสซื้อโรงแรม แต่ใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก ประกอบกับการเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จีน ตามรายงานที่มีชื่อว่า Hotel Investment Outlook (แนวโน้มตลาดการลงทุนด้านโรงแรม) จากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล ซึ่งเป็นรายงานรายปีที่วิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ของโลกที่มีผลต่อตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรม

รายงานฉบับดังกล่าว เปิดเผยว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีการซื้อขายโรงแรมเกิดขึ้นทั่วโลกรวมมูลค่าทั้งสิ้น 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการที่เศรษฐกิจโลกรับมือกับภาวะความผันผวนได้ค่อนข้างดี ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวมีสภาพคึกคักด้วยแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี มูลค่าการลงทุนการซื้อขายดังกล่าว ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2561 เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น จากปัจจัยลบหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นวงจรการขึ้นลงของตลาดโรงแรมเอง และปัญหาความขัดแย้งทางการค้า รวมไปจนถึง Brexit

ส่วนในปี 2563 นี้ มีแนวโน้มด้วยว่า การลงทุนซื้อขายจะมีมูลค่าลดลงไปอีก 10-15% จากปี 2562 เนื่องจากนักลงทุนจะระมัดระวังมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่แม้กระนั้น จะยังคงเป็นการซื้อขายที่ถือว่ามีปริมาณมาก

นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนระหว่างประเทศจะมีบทบาทสูง

ในปีนี้ คาดว่า นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนระหว่างประเทศจะเป็นกลุ่มทุนที่มีบทบาทสูงในตลาดโรงแรมทั่วโลก
นักลงทุนทั่วไปในที่นี้หมายถึงนักลงทุนที่มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลายประเภท (ไม่เน้นลงทุนเฉพาะโรงแรม) โดยคาดว่าในปีนี้ จะยังคงเป็นผู้ซื้อกลุ่มหลักในตลาดโรงแรม ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อโรงแรมโดยนักลงทุนประเภทนี้ มีสัดส่วนคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อทั้งหมด จากเดิมที่เคยมีสัดส่วนอยู่ที่ 60% เมื่อราว 10 ปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน คาดว่า มูลค่าการซื้อโรงแรมโดยนักลงทุนต่างชาติจะเพิ่มสูงขึ้นทั้งในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

ตลาดการลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกคึกคักเป็นพิเศษในปีที่ผ่านมา

ในปี 2562 ที่ผ่านมา การลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกปรับเพิ่มขึ้น 44% จากปี 2561 และสูงกว่าที่มีการประมาณการไว้ก่อนหน้าว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 25-30% และนับเป็นปีที่สองที่ภูมิภาคนี้มีมูลค่าการลงทุนซื้อขายสูงกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหลักๆ มาจากการซื้อขายโรงแรมที่มีมูลค่าสูงในเกาหลีใต้ สิงคโปร์และออสเตรเลีย

สำหรับปี 2563 นี้ คาดว่า การลงทุนซื้อขายโรงแรมในเอเชียแปซิฟิกจะมีมูลค่าลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากรายการซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงจะมีไม่มากเท่าปี 2562 และคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี นักลงทุนจะชะลอการซื้อ เพื่อรอดูผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

รายงานของเจแอลแอล ยังเผย 3 แนวโน้มสำคัญๆ ที่จะเกิดขึ้นในตลาดโรงแรมโลกปีนี้ดังนี้

โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ราคาประหยัดมาแรง
ความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการห้องพักที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นกับที่พักทางเลือกรูปแบบใหม่ๆ ทำให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมให้ความสนใจมากขึ้นในการพัฒนาโรงแรมในเขตตัวเมืองในรูปแบบโครงการที่มีขนาดเล็กกว่าที่เคยและใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ราคาประหยัดมีจำนวนห้องพักขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนหน้าใหม่
มีแนวโน้มว่า จะมีนักลงทุนที่ไม่เคยลงทุนในธุรกิจโรงแรมมาก่อน เข้ามาลงทุนซื้อโรงแรมมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของแรงจูงใจด้านผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่า หรือเพื่อเป็นการกระจายการลงทุน ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้ มีทั้งที่เคยและไม่เคยลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ประเภทอื่นมาก่อน

โมเดลธุรกิจที่ให้บริการครอบคลุมมากขึ้น
โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จำนวนมากขึ้นจะมีโรงแรมเป็นส่วนประกอบของโครงการ หรือโรงแรมเองจะมีพื้นที่สำหรับรองรับอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ อาทิ กรณีของโรงแรมที่เปิดให้บริการพื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซ

Diva4d Toto Online Diva4d sekawanbet Taruh4d Daftar dodoslot kerasbola kerasbola
Dodoslot Kerasbola
bewin999 toto macau tt4d scobet999 gwin4d bewin999 gwin4d tt4d gwin4d slot demo link bewin999 slot terbaru bewin999 slot terbaru bewin999