หน้าแรก » อดีตนายพลตำรวจผู้รักกีฬาฟุตบอล เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลเชียงใหม่

อดีตนายพลตำรวจผู้รักกีฬาฟุตบอล เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลเชียงใหม่

16 พฤษภาคม 2024
336   0

Spread the love

พล.ต.ต.อนุ เนินหาด อดีตนายตำรวจหัวใจนักกีฬา ที่ผันตัวเองเป็นผู้ชื่นชอบอดีตของนครเชียงใหม่ในรูปแบบต่างๆวันนี้พาย้อนอดีตกว่า 30 ปีไปหา พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย ยอดนายตำรวจมือปราบยังโดดเด่นในด้านกีฬาฟุตบอลของทีมตำรวจเชียงใหม่ และทีมฟุตบอลเชียงใหม่ในยุคเฟื่องฟู ในปลายปี พ.ศ.๒๕๓๔ ต่อเนื่องปี พ.ศ.๒๕๓๕ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่แต่งตั้งให้นายตำรวจผู้ชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการยามาฮาไทยแลนด์คัพภาคเหนือ หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์หน้ากีฬา ลงข่าวว่า“วีระวุฒิโดดจับทีมลูกหนังเชียงใหม่ ในฐานะผู้จัดการทีม

สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่มอบหมายนายตำรวจนักฟุตบอล รับหน้าที่ผู้จัดการทีมลูกหนังเชียงใหม่ลุยศึกลูกหนังยามาฮาไทยแลนด์คัพภาคเหนือ ตามที่สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬายามาฮาไทยแลนด์คัพภาคเหนือซึ่งจะมีนักเตะจาก ๑๖ จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อคัดเลือกทีมฟุตบอลที่ชนะเลิศเป็นตัวแทนภาคเหนือเข้าร่วมแข่งขันระหว่างภาคที่เมืองกรุง และจะเปิดสนามวันที่ ๓๑ มกราคมศกหน้า(๒๕๓๕)นั้น

 

เพื่อความแข็งแกร่งของทีมเชียงใหม่ในฐานะเจ้าภาพ นางวิมล ธิเวกานนท์ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่ได้เชิญนายรงคฤทธิ์ ญาณวุฒิ ประธานฝ่ายฟุตบอลสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่และ พ.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย สวส.สภ.อ.เมืองเชียงใหม่เข้าหารือเกี่ยวกับการเตรียมทีมเขาร่วมแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งจากการหารือทางนางวิมล ธิเวกานนท์ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย รับหน้าที่ผู้จัดการทีมร่วมกับนายรงคฤทธิ์ ญาณวุฒิ ประธานฝ่ายฟุตบอลสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่
พ.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย เปิดเผยว่าเมื่อทางสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่มอบหมายให้ตนเองเป็นผู้จัดการทีมแล้ว ตนเองก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ในการจัดตั้งสตาร์ฟทำงาน ทางตนเองก็จะเป็นผู้เลือกเอง โดยจะมีเทอรี่ เคมเซย์ อดีตโค้ชลูกหนังสเปอร์เป็นสตาร์ฟโค้ชด้วย”(นสพ.ไทยนิวส์,๒๗ ธ.ค.๒๕๓๔)

ก่อนหน้านี้เคยมีนายตำรวจที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลเชียงใหม่ คือ พ.ต.ต.พยุง จินาชิต อดีตนักเตะทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งสารวัตรปกครองป้องกันสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่

 

ปัจจุบัน พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย อายุ ๖๙ ปี(เกิด พ.ศ.๒๔๙๘) เดิมเป็นชาวอำเภอเมืองพิจิตรและไปเติบโตที่อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตรโดยคุณพ่อรับราชการตำรวจ วัยเด็กเคยได้รับทุนเรียนดีของจังหวัดพิจิตรไปเรียนชั้นประถมปีที่ ๕ ที่โรงเรียนจ่านกร้อง จังหวัดพิษณุโลกและเรียนต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม โรงเรียนประจำจังหวัดพิษณุโลก ภายหลังกลับมาเรียนต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม โรงเรียนประจำจังหวัดพิจิตร ระหว่างนั้นได้เล่นฟุตบอลของโรงเรียนมาโดยตลอด

หลังจากนั้นไปศึกษาต่อจบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและสอบรับราชการเป็นนิติกรของกระทรวงพาณิชย์ รับราชการอยู่ระยะหนึ่งไม่ชอบงานนิติกรจึงสอบคัดเลือกเข้าอบรมนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นบ.รบ.รุ่น ๙) เพื่อนรุ่นเดียวกัน เช่น พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา, พล.ต.ต.จรินทร์ อินทร์สุวรรณโณ, พล.ต.ต.บัญชา เศรษฐกร, พล.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ เชื้อสมบูรณ์ เป็นต้น

จบการศึกษาแล้วบรรจุรับราชการตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.อ.จอมทองในปี พ.ศ.๒๕๒๒ ร.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย เล่าว่าสมัยนั้นงานตำรวจไม่มากทำให้มีเวลาฝึกซ้อมฟุตบอลกับข้าราชการตำรวจและชาวอำเภอจอมทอง สนามฟุตบอลอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอจอมทอง ชาวอำเภอจอมทองที่สนับสนุนฟุตบอล คือ คุณถาวร เกียรติไชยากรและคุณสุรพล เกียรติไชยากร คหบดีของอำเภอจอมทอง ร.ต.ต.วีระวุฒิ ลงเล่นทีมอำเภอจอมทองซึ่งมักแข่งขันชิงความเป็นเลิศกับทีมคู่แข่งอำเภอข้างเคียงคือ อำเภอฮอด เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีในสมัยนั้น

นอกจากนี้ ร.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย ยังคุมทีมตำรวจสายใต้ที่รวมโรงพักจอมทองและโรงพักข้างเคียง ส่งเข้าแข่งขันฟุตบอลประเพณีของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่จนได้แชมป์มาครองเป็นประวัติศาสตร์ของตำรวจเชียงใหม่สายใต้
ต่อมาได้ย้ายมาเป็นรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ สมัยนั้น พ.ต.ท.ประยุทธ ชูทับทิม เป็นสารวัตรใหญ่ซึ่งเป็นนักฟุตบอลทำให้ทีมฟุตบอลกองเมืองเชียงใหม่ขณะนั้นมีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะในปี พ.ศ.๒๕๒๖ ที่มีนายตำรวจจบใหม่จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น ๓๖ มาบรรจุหลายคนและเป็นกำลังสำคัญของทีมฟุตบอลกองเมืองเชียงใหม่ เช่น ร.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ, ร.ต.ต.บดินทร์ เจริญวงศ์, ร.ต.ต.สงวน โรงสะอาด เป็นต้น เมื่อรวมกับนายตำรวจฝีเท้าดีคนอื่น เช่น พ.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว, ร.ต.ท.กำพล ไชยคำวัง ทำให้ทีมฟุตบอลกองเมืองเชียงใหม่ในรุ่นนั้นคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศเป็นแชมป์ฟุตบอลตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่

ผลงานที่ส่งผลให้ทีมฟุตบอลกองเมืองเชียงใหม่ได้แชมป์บอลตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย ชื่นชม ร.ต.ต.สงวน โรงสะอาด(ยศสุดท้ายพล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา)
“พี่เล่นกลางและเล่นปีก สงวน โรงสะอาดเป็นนายตำรวจจบจากโรงเรียนนายร้อยมาใหม่เล่นแบ็ค เล่นไม่ดีเพราะไม่มีพื้นฐานบอลมาก่อน แต่แรงดีวิ่งได้ตลอด นัดสำคัญนัดหนึ่งคือ ทีมกองเมืองเชียงใหม่แข่งกับทีมตำรวจสายเหนือที่มีผู้เล่นอดีตเขต ๕ ปีกขวา คือ พ.ต.ต.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ขณะนั้นเป็นสารวัตรสืบสวนสอบสวนโรงพักพร้าว เล่นเก่งมักเรียกบอลและเลี้ยงไปยิงทีมคู่แข่งอยู่เสมอ ผมก็มอบหมายให้สงวนประกบ สั่งว่าประกบชิดเลย พี่สุรเชษฐ์ไปไหนให้ตามไปด้วย
“ปรากฏว่าได้ผล พี่สุรเชษฐ์ได้บอล ก้าวเท้าหลอกจะเลี้ยงไปขวาแล้วปาดบอลไปทางซ้าย แต่สงวนไม่รู้ว่าโดนหลอกก็ไม่หลงตาม ไล่ทิ่มบอลออกทำให้พี่สุรเชษฐ์เล่นไม่ได้ นัดนั้นทีมกองเมืองเชียงใหม่ชนะ ยกความดีความชอบให้สงวน
“ฟุตบอลทีมกองเมืองรุ่นนั้นมีโอกาสแข่งเชื่อมความสามัคคีกับทีมผู้สื่อข่าวที่มีพี่อำนาจ, อ้อน-ไทยรัฐ, เจี๊ยบ-ไทยนิวส์ เป็นหลัก สร้างความคุ้นเคยกันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังแข่งเชื่อมความสามัคคีกับทีมครูโรงเรียนปรินส์ฯและทีมครูโรงเรียนมงฟอร์ตฯ ทำให้รู้จักคุ้นเคยกัน

“สนามฟุตบอลสมัยนั้นมักเล่นกันที่สนามเทศบาลฯเชียงใหม่ แต่มักไม่ว่าง ทำให้ต้องหาสนามใหม่ ผมไปพัฒนาทำสนามฟุตบอลหลังสาธารณสุขเชียงใหม่ ถนนนิมมานเหมินท์ สมัยก่อนเป็นป่าไมยราบรก ไปช่วยกับดาบพัฒน์และโค้ชแดง-นักบอลเขต ๕ เอาตำรวจไปช่วยแผ้วถางและทำสนามบอลไว้เล่นกัน เป็นสนามที่นิยมกันมากในสมัยนั้น ปัจจุบันคือบริเวณหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่”

ต่อมา พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย โยกย้ายไปอยู่โรงพักแม่แตงและโรงพักหางดง ก่อนที่จะขึ้นเป็นสารวัตรสืบสวนสอบสวนที่โรงพักเขาบางแกรก จังหวัดอุทัยธานี โดยการสนับสนุนของ พล.ต.ต.สัจจะ กระแสเวส ขณะนั้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต ๙ จังหวัดนครสวรรค์
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ย้ายมาเป็นสารวัตรสืบสวนสอบสวนโรงพักกองเมืองเชียงใหม่ กลับมาเล่นฟุตบอลและอยู่ในวงการฟุตบอลของเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง นอกจากเล่นฟุตบอลแล้วยังส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลประชาชนถ้วย ก.ของเชียงใหม่ ในชื่อ ทีมน้องว้อนซึ่งเป็นชื่อลูกชาย ขณะนั้นมีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนเข้ามาร่วมทีม

ต่อมาปลายปี พ.ศ.๒๕๓๔ ต่อเนื่องปี พ.ศ.๒๕๓๕ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่แต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลยามาฮาไทยแลนด์คัพภาคเหนือ
พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย เล่าการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลจังหวัดเชียงใหม่ในขณะนั้นว่า
“สมัยนั้นผมอยู่ในแวดวงของกีฬาฟุตบอลเชียงใหม่และได้รู้จักกับประธานฝ่ายฟุตบอลคือ คุณรงคฤทธิ์ ญาณวุฒิ เป็นนักธุรกิจทำหมู่บ้านคุรุสภา รู้จักโดยการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่งทำให้คุ้นเคยกัน คุณรงคฤทธิ์เห็นว่ามีความสามารถจึงมอบหมายให้เป็นผู้จัดการทีมจังหวัดเชียงใหม่ มีการรวมนักฟุตบอลฝีเท้าดีจากหลายสถาบันการศึกษามารวมกัน นอกจากนี้พี่ดึงทีมสโมสรตำรวจคือ อุดม สุวรรณเลขามาเล่นด้วย

“ได้โค้ช คือ เทอรี่ เคมเซย์ เป็นชาวอังกฤษเคยเล่นทีมสเปอร์มาก่อน โดยเทอรี่พูดภาษาไทยได้มีภรรยาเป็นคนไทย ก่อนที่จะมาเป็นโค้ชทีมจังหวัดเชียงใหม่นั้นพี่มอบหมายให้เป็นโค้ชทีมฟุตบอลกองเมืองเชียงใหม่ก่อน เห็นว่ามีความรู้ความสามารถจึงชวนมาเป็นโค้ชทีมจังหวัดเชียงใหม่ คนที่ชักนำเทอรี่มาสู่วงการฟุตบอลเชียงใหม่ คือ ร.ต.อ.พัฒน์ หอมนาน สมัยเป็นนายดาบตำรวจทำหน้าที่เป็นสายตรวจของโรงพักกองเมืองเชียงใหม่ ไปตรวจและทักทายนักท่องเที่ยวที่ถนนท่าแพ ไปเจอเทอรี่มาเที่ยวและคุยเรื่องฟุตบอลก็ถูกคอ จึงพามาแนะนำให้ผมรู้จักและให้ช่วยเป็นโค้ชให้ทีมโรงพักกองเมืองเชียงใหม่

“ทีมฟุตบอลจังหวัดเชียงใหม่โดยใช้โค้ชจากประเทศอังกฤษชื่อ เทอรี่ เคมเซย์ สมัยนั้นเป็นข่าวฮือฮาคนสนใจกันทั่วประเทศเพราะยังไม่มีทีมฟุตบอลอื่นใช้โค้ชต่างชาติเนื่องจากค่าจ้างแพง แต่เทอรี่ไม่เน้นค่าจ้าง แค่พอมีรายได้ที่พออยู่เชียงใหม่ได้ก็เพียงพอ ถือว่ามีความสามารถคนหนึ่ง ภายหลังย้ายไปกรุงเทพฯและหายจากวงการฟุตบอลเชียงใหม่ไป เป็นประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลเชียงใหม่ครั้งหนึ่งที่น่าจดจำ
“ทีมฟุตบอลเชียงใหม่ชุดนั้นเตรียมทีมดีค่อนข้างดี ถือว่ามีความสามารถเพราะไปเสมอกับทีมจังหวัดนครสวรรค์ได้ สมัยนั้นทีมจังหวัดนครสวรรค์ใช้ผู้เล่นสโมสรถาวรฟาร์ม เก่งระดับต้นๆ ของประเทศ ติดทีมชาติหลายคน แต่ทีมเชียงใหม่ยันเสมอและสู้อย่างไม่ด้อยกว่า น่าเสียดายที่เตะลูกโทษแพ้ทำให้ตกรอบสองในรายการนั้น”

หลังจากทำหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนั้น ต่อมามีภาระหน้าที่การงานมากขึ้นทำให้ห่างจากวงการฟุตบอลเชียงใหม่ ด้านหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตรหัวหน้างานสอบสวนและรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.อ.เมืองเชียงใหม่, รองผู้กำกับการหัวหน้า สภ.อ.ดอยสะเก็ดสมัยที่ พล.ต.อ.พจน์ บุณยจินดาเป็นอธิบดีกรมตำรวจ ต่อมาย้ายเป็นรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ต่อมาย้ายไปภาคกลางตำแหน่งรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ ขึ้นเป็นผู้กำกับการวิชาการ กรมตำรวจ ก่อนที่จะย้ายกลับมาเป็นผู้กำกับการ สภ.แม่ใจ จ.พะเยาและย้ายกลับเชียงใหม่มาเป็นผู้กำกับการ สภ.อ.แม่ริม

เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่สมัยที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยย้ายไปเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ๑ ปีและย้ายกลับมาตำแหน่งเดิม และเลื่อนเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายในปี พ.ศ.๒๕๕๗ เกษียณอายุราชการในตำแหน่งนี้ในปี พ.ศ.๒๕๕๘

การรับราชการหมุนเวียนอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่นานถึง ๒๗ ปีประกอบกับมีอุปนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจรักและไม่ทอดทิ้งเพื่อนฝูง คบหาผู้คนทุกวงการ ส่งผลให้ พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อยเป็นที่รู้จักทั่วไปและเป็นผู้มากบารมีคนหนึ่งของเชียงใหม่
พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย ให้ความเห็นเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเชียงใหม่ว่าน่าจะมีรายการแข่งขันระดับเยาวชนให้มากขึ้นเพื่อพัฒนาหาดาวรุ่งของเชียงใหม่ เป็นการปั้นนักเตะคนเชียงใหม่ตั้งแต่เด็กเยาวชนที่จะทำให้ฟุตบอลเชียงใหม่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและสร้างชื่อเสียงในอนาคต.

พล.ต.ต.อนุ เนินหาด เรียบเรียง

Diva4d Toto Online Diva4d sekawanbet Taruh4d Daftar dodoslot kerasbola kerasbola
Dodoslot Kerasbola
bewin999 toto macau tt4d scobet999 gwin4d bewin999 gwin4d tt4d gwin4d slot demo link bewin999 slot terbaru bewin999 slot terbaru bewin999