ท่องเที่ยว » ทีเส็บชวนมา“อยู่หอมกินหอม”ที่เชียงใหม่ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้กับงานเชียงใหม่บลูมส์ “Chiang Mai Blooms 2023”

ทีเส็บชวนมา“อยู่หอมกินหอม”ที่เชียงใหม่ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้กับงานเชียงใหม่บลูมส์ “Chiang Mai Blooms 2023”

4 กุมภาพันธ์ 2023
264   0

Spread the love

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นายนิรัตน์  พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  เป็นประธานเปิดงาน  “Chiang Mai Blooms 2023”เทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ในวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ..2566  พร้อมกล่าวว่า เทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน ประจำปี 2566 “Chiang Mai Blooms 2023”  ซึ่งได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่6 และได้รับการยกระดับให้เป็นเทศกาลระดับนานาชาติ อีกทั้งยังได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับรางวัลIFEA เมืองเทศกาล หรือ World and Event Association ซึ่ง Chiang Mai Blooms หรือ เทศกาลเชียงใหม่เบิกบานเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เป็นเทศกาลหลัก ที่สามารถยกระดับ และสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ่น ให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนให้เป็น Flagship Homegrown festival และเป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะช่วยกระตุ้น และฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย รวมไปถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังกลับสู่ภาวะปกติหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ส่งผลให้พื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ

สำหรับการจัดงานเทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน ประจำปี 2566 “Chiang Mai Blooms 2023” จังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมสนับสนุนให้ภาคธุรกิจของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงสร้างผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยดึงดูดนักเดินทางภายในประเทศเข้ามาใช้จ่าย ในจังหวัดเชียงใหม่ผ่านกลยุทธ์ที่ท่านผู้จัดงานเทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน ได้จัดขึ้นร่วมกับภาคธุรกิจต่าง โดยนำเรื่องราวของดอกไม้นานาพรรณสู่เป้าหมายหลัก คือ การช่วยเหลือผู้ประกอบการ และทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นหมุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเมืองแห่งดอกไม้ในระดับโลกได้รับทราบว่าภาคธุรกิจต่าง ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่ผลิตและจำหน่ายดอกไม้ ตลอดจนธุรกิจภาคท่องเที่ยว และภาคการบริการของจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาร่วมสร้างกิจกรรมเทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน ประจำปี 2566 กว่า 16 กิจกรรม ตลอดปฏิทินท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ และสามารถสร้างคอนเทนต์มากมายที่เกี่ยวกับดอกไม้ ซึ่งผมคาดหวังว่าเทศกาลเชียงใหม่เบิกบาน ประจำปี 2566 จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่ ให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

ด้าน นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ (ททท.)  กล่าวถึงนโยบายในการส่ง เสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ตามนโยบายของททท.  ว่า สำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ปี 2566 ที่กำลังจะมาถึง จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้น และพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยโดย ททท. กำหนดทิศทางการตลาดให้สอดคล้องกับแผนวิสาหกิจองค์กร ททท. ..2566 – 2570 ภายใต้วิสัยทัศน์ททท. เป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้าง ประสบการณ์ทรงคุณค่ามุ่งสู่ความยั่งยืนเตรียมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูในทุกมิติ ตาม 3 วัตถุประสงค์เชิงยุทธศาสตร์หลัก (Strategic Objective) ได้แก่ Drive Demand : มุ่งเน้นการท่องเที่ยว เชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน Shape Supply : สร้างคุณค่าและยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผ่านการสร้างระบบ นิเวศด้านการท่องเที่ยวใหม่ (New Tourism Ecosystem) และThrive for Excellence : ยกระดับองค์กรสู่ องค์กรสมรรถนะสูง มุ่งสู่การเป็น Data Driven Organization เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้าน การตลาด สู่หมุดหมายของการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยเปลี่ยนผ่านสู่ High Value & Sustainable Tourism อย่างแท้จริง

โดย ททท. จะกระตุ้นความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ (Drive demand) สร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) ตามแคมเปญการสื่อสารต่างประเทศ Visit Thailand Year 2022-2023 : X (5F : 4M คือ Food Film Fashion Festival Fight Music Museum Master Meta ) และเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิมสำหรับแคมเปญ การสื่อสารในประเทศ ควบคู่ไปกับการปรับ ต่อยอด และพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) สร้างระบบนิเวศ ด้านการท่องเที่ยวใหม่ (New Tourism Ecosytem) ที่สมดุลใน 4 มิติ (4Ws) ทั้งด้านเศรษฐกิจ (Economic Wealth) สังคม (Social Wellbeing) สิ่งแวดล้อม (Environmental Wellness) และเสริมสร้างภูมิปัญญามนุษย์ (Human Wisdom) รวมทั้ง บูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน (Collaborative partnership) ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพื่อให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมด้านการแข่งขันและความท้าทายด้านเศรษฐกิจ และสังคมที่เพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ เพื่อปักหมุดหมายการท่องเที่ยวของไทย ยกระดับ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน(High value and sustainability) ทั้งนี้ ปี 2566 นับเป็นปีแห่งความท้าทายในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่บทต่อไปอย่าง แข็งแรงอีกครั้ง ในตลาดต่างประเทศ ททท. ยังให้ความสำคัญกับการ Save Partner โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากการเพิ่มความจุที่นั่ง (Seat Capacity) โดยดึงฐานลูกค้าเดิมในพื้นที่ตลาดหลักที่ นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างอิสระตามปกติและสามารถออกเดินทางได้ทันทีโดยมุ่งกระตุ้นความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มคุณภาพกระแสหลัก อาทิกลุ่ม Millennials กลุ่มGen X และ กลุ่ม Silver-Age-People (SAP) และเจาะขยายฐานตลาดกลุ่มความสนใจพิเศษโดยเฉพาะ กลุ่ม Health & Wellness กลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬา กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เที่ยวอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงกลุ่มตลาดเฉพาะใหม่ๆอาทิ กลุ่ม Digital nomad และ กลุ่ม Telework ซึ่ง ททท. จะปรับสมดุล โครงสร้างตลาด ผ่านการส่งเสริมตลาดแบบLess for more เพื่อมุ่งขยายตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ

ขณะที่ นางจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กรสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การจัดงานเชียงใหม่บลูมส์  โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (ทีเส็บ) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เพื่อยกระดับมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ด้วยงานเชียงใหม่บลูมส์  เพื่อขยายโอกาสและสร้างรายได้เพิ่มเติม โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวและชาวไมซ์มาอยู่หอม กินหอม ทํากิจกรรมต่างๆ ผ่านเรื่องราวของของดอกไม้ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้

ด้านนางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมวิศิษฎ์ล้านนาเพื่ออุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยว กล่าวว่า สำหรับการจัดงานเชียงใหม่บลูมส์ในปี 2566 นี้ ใช้ธีมงานว่า Magic Moments หรือ มนต์เสน่ห์เมืองไม้งาม ภายใต้แนวคิดกินหอม อยู่หอมเพื่อสะท้อนถึงช่วงเวลาที่มนต์เสน่ห์ของดอกไม้จะนําทางผู้คนมากินหอม อยู่หอมด้วยกันที่จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยจะมีกิจกรรมไฮไลท์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ ครอบคลุมในด้านต่างๆ ทั้งศิลปหัตถกรรม อาหาร ดนตรี ความคิดสร้างสรรค์ หลากหลายกิจกรรมกระจายตัวทั่วเมืองเชียงใหม่ อาทิ Blooms Wisdom นิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ที่เชื่อมโยงวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมของชาวล้านนา , Blooms City Gallery นิทรรศการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะดอกไม้ร่วมกับนักจัดดอกไม้ ศิลปิน ผู้จัดเทศกาลร่มบ่อสร้าง หน่วยงานสร้างสรรค์และชุมชน , Blooms Market การออกร้านอาหารและเครื่องดื่มของผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ , Blooms Bazaar การออกร้านอาหาร เครื่องดื่มงานคราฟท์ของผู้ประกอบการและชุมชนในตลาดนัดชื่อดังทั่วเมือง , Blooms Coffee & Tea สัมผัสกลิ่น อายดอกไม้กับวัฒนธรรมการดื่มชา กาแฟ , Blooms Eatery การนําดอกไม้มารังสรรค์เป็นอาหารรสชาติพิเศษในบรรยากาศสวนดอกไม้ , Blooms Run การวิ่งเส้นทางดอกไม้ , Blooms Wellness สปาดอกไม้ , กิจกรรม Blooms Beat คอนเสิร์ตกลางทุ่งดอกไม้ และ Flowers on the Table มื้ออาหารที่พิเศษที่สุดของเชียงใหม่ในบรรยากาศสุนทรีย์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาล

​​ทั้งนี้ในยุคที่ตลาดท่องเที่ยวของโลกแข่งขันกันเรื่องอัตลักษณ์และประสบการณ์ที่แตกต่างของจุดหมายปลายทางนั้นจังหวัดเชียงใหม่มีข้อได้เปรียบด้วยทรัพยากรด้านอารยธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ที่เป็นมรดกและสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม เป็น Soft Power ที่จะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับถือเป็นเทศกาลระดับตํานาน เป็นสัญลักษณ์และภาพจําของเมือง ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่าง ของงาน เชียงใหม่บลูมส์ได้ที่ www.chiangmaiblooms.com และhttps://www.facebook.com/chiangmaiblooms และ ช่องทางจำหน่ายบัตร Chiang Mai Blooms ได้ที่ลิ้งค์https://shop.line.me/@646qmtac

Diva4d Toto Online Diva4d sekawanbet Taruh4d Daftar dodoslot kerasbola kerasbola
Dodoslot Kerasbola
bewin999 toto macau tt4d scobet999 gwin4d bewin999 gwin4d tt4d gwin4d slot demo link bewin999 slot terbaru bewin999 slot terbaru bewin999