เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 ก.ย.นี้ที่อาศรมโพธิสัจธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ฤาษี พุทธจรัล พุทธจรัล วัย 81ปี ได้ออกมาพูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยังอยู่ในช่วงที่จะตัดสินว่าจะอยู่หรือจะไป ฤาษีพุทธจรัล ได้บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ หรือบิ๊กตู่ เปรียบเหมือนเหล็กกล้าที่อยู่มานานแต่ไม่มีสนิมเกาะ หรือไม่มีโอกาสขึ้นสนิม มีอะไรมาเปรอะเปื้อนก็ไม่ขึ้นสนิม หมายความว่าท่านมีภูมิต้านทานมีจุดยืนเพราะฉนั้นกิเลสต่างในวงการในระบบไม่สามารถซึ่มซับเข้าไปในจิตใจ ไม่ว่าโลภโกรธหลง โลภมีแน่ หลงมีแน่ แต่ในด้านวิถีความคิดวิธีการเมืองวิถีผู้นำเข้าไปไม่ถึง ท่านน่าทึ่งตรงนี้ตนเห็นซึ่งมีให้เห็นไม่มากในโลกนี้ ตนจึงเปรียบเทียบท่านเหมือนเหล็กกล้าที่สนิมไม่เกาะจริงอยู่เขาอยู่มาถึง 8 ปี แต่ตนยังคิดว่าประเทศยังต้องการเขาอยู่ อย่าลืมว่าคนๆนี้เข้ามาเพื่อแผ่นดิน เขาเข้ามาเพื่อสถานบันกษัตริย์ สถาบันชาติ
เพราะฉนั้นหน้าที่หลักเขามาจากทหารเพื่อมาเก็บกวาดบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข ถ้าเรามองเห็นอย่างนี้ก็เห็นว่าเขามีคุณค่า แต่ถ้ามองในด้านอื่นก็เห็นว่าบุคคลอีกหลายคนที่มีความสามารถมากกว่าเขา แค่สำหรับตนแล้วเห็นว่าคนๆนี้มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความจริงจังจริงใจ คุณสมบัติอย่างนี้เราหาไม่ได้ครบในนักการเมืองระดับโลก ดังนั้นตนก็อยากให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ให้อยู่ต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งมีคนที่เหมาะสมยิ่งกว่าท่านเข้ามาบริหารแผ่นดิน อย่าลีมว่าการเมืองเป็นสิ่งที่ไม่แน่ไม่นอน แต่อนาคตของบ้านเมืองต้องมั่นคงแน่นอน
ส่วนที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะผ่านต่อไปเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม ตนเชื่อว่าบารมีท่านมีเพียงพอ พระสยามเทวาธิราชยังต้องการท่านอยู่ คิดว่าจะไปได้สวย เก้าอี้นายกฯยังรอท่านอยู่ แต่คำถามที่ว่าภายภาคหน้าที่จะมีนายกฯเป็นผู้หญิงเข้ามาอีก ก็เป็นไปได้หากมีบารมีเพียงพอในขณะนั้นชาติบ้านเมืองก็จะยอมรับ ไม่ใช่อยู่ที่ใครอยากมาอยากไป ถามว่ามีบารมีเพียงพอหรือไม่และกระแสยอมรับได้ไหม หากกระแสยอมรับบารมีสมพงษ์กันคนนั้นก็จะได้เป็นนายกฯ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นผู้หญิง เป็นไปได้หรือไม่ ฤาษีพุทธจรัล ตอบว่า ตนยังมองไม่เห็นและมองไม่ออก เพราะว่าบารมีจากวาจาก็วัดได้ในระดับหนึ่ง บารมีจากธนาคารก็วัดได้ระดับหนึ่ง แต่บารมีสังคมโดยรวมวัดยาก มันต้องเกิดมาเป็นถึงจะได้เป็น ในระดับดวงดาวถ้าเกิดมาเป็นก็ไม่มีใครยับยั้งได้ //